12 นิสัยที่ต้องเลิกถ้าอยากเป็นเศรษฐี
12 นิสัยที่ต้องเลิกถ้าอยากเป็นเศรษฐี
Success is a mindset ความสำเร็จคือความคิด ถ้าอยากประสบความสำเร็จ คุณต้องวางแผนอย่างดีเพื่อจะไปให้ถึงเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ที่คุณต้องการ และการจะทำตามแผนให้ได้นั้นคุณจะต้องสละบางอย่างที่อาจจะเป็นความสะดวกสบายหรือความสนุกในชีวิตไปบ้าง ไปดูกันว่ามีอะไรบ้าง
เลิกวางเป้าหมายที่ง่ายเกินไป
ทุกอย่างในชีวิตที่คุณมองว่าคุ้มค่าที่จะทำ ควรทำมันให้มากขึ้น มากขึ้น และมากขึ้นไปอีก เมื่อคุณถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ คุณไม่ควรหยุดแค่นั้นควรทำให้มากกว่านั้นขึ้นไปอีกหน่อยเสมอ เปรียบเสมือนการรินน้ำจนล้นแก้วออกมา และเริ่มตั้งเป้าหมาายใหม่ที่ยากกว่า ไกลกว่าทันที
เลิกทำทุกๆอย่างพร้อมกัน ให้เลือกสิ่งที่คิดว่าใช่จริงๆ
หลายงานวิจัยชี้ว่า 98% ของผู้คนไม่สามารถประสบความสำเร็จในการทำหลายๆสิ่งไปพร้อมๆกันได้ โดยทั่วไปแล้วคนเราจะทำสิ่งต่างๆได้แย่ลงเมื่อทำมันพร้อมๆกันเสมอ คนที่มีปัญหางานล้นมือหรือต้องทำงานยุ่งตลอดเวลา ส่วนใหญ่เป็นเพราะมีปัญหาในการแยกแยะ และจัดลำดับความสำคัญ ปัญหาการจัดการกับความคิด และการหยุดงานตรงหน้า เพื่อย้ายไปทำงานที่สำคัญก่อน
เลิกเช็คโซเชียลระหว่างทำงาน
โซเชียลมีเดียสร้างมาให้เหมือนกับเขาวงกต เต็มไปด้วยสิ่งล่อตาล่อใจ ลิ้งค์ โพสต์ รูปภาพ วิดีโอ ที่ทำให้คุณติดอยู่ในนั้น ทำเราใช้เวลาไปกับมันมากไปโดยเปล่าประโยชน์
เลิกเสียเวลากับคนคิดลบ
ไม่ใช่ว่าให้ไปเลิกคบเพื่อนหรือชวนทะเลาะ แต่แค่ใช้เวลาร่วมกันให้น้อยลง เพราะการอยู่กับคนคิดลบมากเกินไปจะทำให้คุณเริ่มซึมซับทัศนคติด้านลบ และลืมเป้าหมายที่สำคัญของคุณไป
เลิกหาข้ออ้าง
หากคุณต้องการบางอย่าง ก็แค่ออกไปเอามันมา ออกไปทำมัน อย่าห้าข้ออ้าง หยุดหาเหตุผลต่างๆนาๆ ที่ทำให้คุณสบายใจที่จะหยุดอยู่ที่เดิม
เลิกเสพติดความสมบูรณ์แบบ
จงอยู่กับความเป็นจริง อย่าใช้เวลากว่า 5 ชั่วโมงไปกับการคิดว่าจะใช้ฟ้อนต์อะไร สี หรือธีมแบบไหนดีในการสร้างสไลด์นำเสนองาน ทั้งที่ไม่มีใครสังเกตเห็นมัน คุณควรใช้เวลาอย่างคุ้มค่าที่สุด อย่าทำให้ทุกอย่างช้าลงเพียงเพราะติดอยู่กับรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ ที่ไม่ได้สำคัญอะไร
เลิกบ่น
มันเป็นเรื่องง่ายๆ ถ้าคุณคิดบวก พูดเรื่องดีๆ ทำสิ่งดีๆ ก็จะดึงดูดสิ่งดีๆเข้ามาหาคุณ ให้ทำตัวเป็นน้ำครึ่งแก้วเสมอๆ สะสมเรื่องดีๆไว้ เมื่อมีเรื่องร้ายๆเข้ามาคุณก็แค่ยิ้มและสู้ต่อไป
เลิกคิดมากเกี่ยวกับตัวเอง
คุณโกรธให้หัวหน้าของคุณที่ไม่ใส่ใจคุณ โกรธให้เพื่อนร่วมงานที่ไม่ชมเสื้อผ้าชุดใหม่ของคุณ ทุกคุณมีปัญหาของตัวเอง ต่างคนต่างก็สนใจเรื่องของตัวเอง คุณจะมีความสุขมากกว่าถ้าไม่มัวมาคิดหยุมหยิมว่าทำไม ใครทำอะไรแบบไหนกับคุณ
เลิกแบกทุกอย่างไว้คนเดียว
แม้ว่าคุณจะบอกว่า มาเลย พร้อมชนทุกความท้าทาย แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะลุยทำมันไปทุกอย่าง ด้วยตัวคุณเอง คุณต้องเลือกกระจายงานให้กับทีมงานอย่างเหมาะสม และถามตัวเองว่า จะทำอย่างไรให้งานนี้มีประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ใช่ว่า จะทำอย่างไรให้งานเสร็จ
เลิกประชุมพร่ำเพรื่อ
มาร์ค คิวบัน เคยกล่าวไว้ว่า “อย่าเข้าประชุมกับใครนอกจากว่าเค้าจะเขียนเช็คให้คุณ” การประชุมที่เริ่มช้า ยาวนาน ไม่ได้เนื้อหาสาระอะไร เป็นสิ่งทำให้เสียเวลาเป็นอย่างมาก บางครั้งการคุยกับคนที่เกี่ยวข้องโดยตรงแทนที่จะนัดประชุมจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ผมจะถามถึงระเบียบวาระการประชุมก่อนเสมอ ถ้ามันไม่ชัดเจน หรือไม่มีประโยชน์พอ ผมจะไม่ยอมเสียเวลาไปกับมันเด็ดขาด
เลิกใช้ to-do lists
ไม่ใช่ว่าให้เลิกวางแผนทำงาน แต่ให้ทำมันให้ดีขึ้น ด้วยการใส่แผนงานลงในปฏิทินแทน จะช่วยให้งานและชีวิตมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ถ้าคุณลองทำตามที่ว่ามานี้ คุณจะสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงในไม่กีสัปดาห์ ในแต่ละวันลองนั่งนึกทบทวนว่าอะไรที่คุณทำได้ดี และทำได้ดีกว่านี้ สุดท้ายสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการมีภาพความสำเร็จในใจเสมอครับ
src: entrepreneur
2640 2018-01-18 22:45:57