Article view

1. ทานอาหารเช้าทุกวัน

ใครว่าอาหารเช้าไม่สำคัญเพราะอาหารเช้าเป็นมื้ออาหารหลักที่ให้พลังงานแก่ร่างกายอย่างเต็มประสิทธิภาพ ทำให้ร่างกายสามารถนำสารอาหารต่างๆ มาบำรุงสุขภาพและสมองได้อย่างเต็มเปี่ยม เราจะมีพลัง สมองจะทำงานอย่างเป็นระบบ แน่นอนว่าเมื่อสมองของเรามีพลังแบบนี้อาการขี้หลงขี้ลืมต่างๆ ก็ย่อมป้องกันได้อย่างแน่นอน

2. ทบทวนเรื่องสำคัญเกี่ยวกับงาน

วิธีป้องกันอาการขี้ลืมอย่างง่ายๆ ก็คือการหมั่นทบทวนเรื่องสำคัญต่างๆ เกี่ยวกับการทำงาน เช่น หากเมื่อวานเรากำลังเรียนรู้ศึกษางานชิ้นใหม่ อาจจะมีจุดที่ยาก ดังนั้น อย่าปล่อยให้วันเวลาทำให้เราหลงลืม จงพยายามหมั่นฝึกคิด ทบทวนเรื่องงานที่สำคัญเหล่านั้นเสมอ เมื่อสมองหมั่นทบทวน ใช้ความคิดบ่อยๆ อาการขี้ลืมเกี่ยวกับเรื่องงานก็ย่อมเกิดขึ้นได้ยากอยู่แล้ว

3. คุยกับเพื่อนร่วมงานด้วยเรื่องสร้างสรรค์

พักเบรคเมื่อไร หลายคนมักจะลุกออกไปนั่งจับกลุ่มนินทาเพื่อนร่วมงานด้วยกันหรือนินทาหัวหน้าหรือเจ้านาย  ถ้าจะให้ดีแนะนำว่าควรหันหน้าไปคุยกับเพื่อนร่วมงานที่สามารถให้คำปรึกษา แลกเปลี่ยนความคิดเห็นหรือให้ความรู้แง่คิดใหม่ๆ ในเรื่องงานเหมือนกันดีกว่า คนแบบนี้จะยิ่งกระตุ้นให้สมองของเราเกิดการกระตือรือร้นเรียนรู้สิ่งดีใหม่ๆ และทำให้สมองของเราสามารถคิด วางแผนและวิเคราะห์ในเชิงสร้างสรรค์เกี่ยวกับการทำงานได้ทุกเรื่องอีกด้วย

4. เครื่องดื่มระหว่างวันกระตุ้นพลังสมองได้

น้ำสมุนไพรอุ่นๆ ร้อนๆ เช่นน้ำชาเขียว น้ำขิง น้ำตะไคร้ เป็นต้น น้ำเหล่านี้หากชงดื่มร้อนๆ จะทำให้สมองปลอดโปร่ง แถมไม่ทำให้อ้วนขึ้นอีกด้วย ช่วยทั้งเรื่องระบบเผาผลาญ ทำให้สมองปลอดโปร่งและดีต่อสุขภาพไม่น้อยทีเดียว

5. สูดรับออกซิเจนให้เต็มปอดเพื่อเติมพลังสมอง

หาเวลาออกไปสูดรับออกซิเจนริมหน้าต่างกันบ้างดีไหม หากนั่งอุดอู้ทำงานในออฟฟิศตลอดวันแล้วไม่ได้ทำให้สมองโปร่งขึ้น หรือในตอนเช้าแนะนำให้ออกมาสูดอาการบริสุทธิ์พร้อมยิ้มรับแสงตะวันวันใหม่ รับรองว่าอากาศดีๆ ยามเช้าจะช่วยกระตุ้นสมองให้ปลอดโปร่ง ป้องกันอาการขี้ลืมได้ดีทีเดียว

6. ใช้กลิ่นหอมๆ ที่คุณชอบช่วยผ่อนคลายสมอง

กลิ่นหอมรอบตัวเราอย่างกลิ่นน้ำมันหอมระเหยต่างๆ จะช่วยผ่อนคลายความเหนื่อยล้าได้ดี เช่น กลิ่นมินต์ กลิ่นวานิลลา กลิ่นส้มและกลิ่นมะนาว ลองพกพาน้ำมันเหล่านี้ติดตัวไปทำงานด้วย เมื่อไรที่อ่อนล้า ให้หยดน้ำมันลงบนผ้าเช็ดหน้าแล้วสูดดมเบาๆ หรือจะหยดใส่มือแล้วนวดวนๆ ก็ได้เช่นกัน เมื่อเราได้กลิ่นหอมอ่อนๆ จากธรรมชาติเช่นนี้จะทำให้สมองผ่อนคลาย อาการตึงเครียดทั้งหลายจะลดลงอีกด้วย

7. จดบันทึกสิ่งที่ต้องทำและหมั่นทบทวนเป็นระยะ

หากอาการขี้ลืมมันมีผลต่อการทำงานและการใช้ชีวิตของคุณจริงๆ วิธีนี้แสนจะง่ายมากเลยทีเดียวที่จะช่วยคุณป้องกันปัญหาขี้ลืมต่างๆ ได้อยู่หมัด นั่นก็คือการจดบันทึกสิ่งที่ตัวเองต้องทำ ไม่ว่าจะเป็นการรันลำดับความสำคัญของงานและสิ่งที่ต้องสะสางในการดำเนินชีวิตต่างๆ ทุกเรื่อง แยกสัดส่วนออกจากกัน เวลาไหนควรทำสิ่งใด แล้วคุณจะมีสมาธิในการจัดการสิ่งต่างๆ ได้อย่างอยู่หมัดแบบไม่ต้องกลัวอาการขี้ลืมเล่นงานอีกเลย

รู้แล้ววิธีการแล้วอย่าลืมนำ 7 วิธีกระตุ้นพลังสมองป้องกันอาการขี้ลืมระหว่างทำงานไปใช้กันสม่ำเสมอล่ะ แล้วคุณจะกลายเป็นคนที่มีความกระตือรือร้น มีสมองปลอดโปร่งแจ่มใส กลายเป็นบุคคลแอคทีฟต่อการใช้ชีวิตแบบไม่หวั่นอาการขี้ลืมอีกต่อไปเลย

ข้อมูลจาก beautifulstarthere.com