เทคนิคการหลุดพ้นจากวงจร ลูกหนี้
เทคนิคการหลุดพ้นจากวงจร ลูกหนี้
เชื่อว่าหลายคนคงจะมีหนี้กันอยู่ไม่มากก็น้อย การเป็นหนี้ก็เกิดจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเกิดจากความจำเป็นจริงๆ หรือเกิดจากการที่เราอยากได้ หรืออาจจะเกิดจากค่านิยมต่างๆมากมาย ซึ่งการก่อหนี้ที่มีประโยชน์จริงๆ ควรจะเป็นหนี้ที่เพิ่มมูลค่า หรือเป็นหนี้ที่สร้างรายได้มากกว่า อย่างการเป็นหนี้เพื่อทำธุรกิจ เป็นหนี้เพื่อการศึกษา และหนี้เพื่อที่อยู่อาศัย จากการซื้อหรือผ่อนบ้าน โดยหนี้สินเหล่านี้ถูกจัดให้เป็นหนี้เพื่อการลงทุนและสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับคุณได้ในอนาคต
การเป็นหนี้ก็ถือเป็นกับดักชีวิตอย่างหนึ่งที่ทำให้หลายคนประสบปัญหาทางการเงิน ซึ่งถ้าหากเป็นหนี้ที่มีประโยชน์ อย่างหนี้จากการซื้อบ้าน หรือหนี้จากการกู้ยืมเพื่อการศึกษา ซึ่งก็ถือว่าเป็นหนี้ที่ดี แต่ถ้าหากเป็นหนี้ที่ไม่พึงประสงค์ หรือเป็นหนี้ที่เกิดจากการไม่ได้วางแผนค่าใช้จ่าย อย่างหนี้บัตรเครดิต ซึ่งหากใช้จ่ายไม่ระมัดระวัง และไม่รักษาวินัยในการจ่าย ก็อาจจะทำให้คุณติดอยู่ในวังวนของวงจรการเป็นหนี้ได้ หลายคนที่กำลังมีภาระหนี้สินอิสระในการใช้จ่ายลดลง โดยอาจมีแนวทางการลดภาระหนี้สินเพื่อปลดแอกตัวเองให้หลุดพ้นจากวงจรลูกหนี้
ควรหยุดสร้างหนี้ก้อนใหม่
( รูปจาก posttoday.com )
หากคุณเองยังมีภาระหนี้สินก้อนเก่าติดพันอยู่ แต่กลับสร้างหนี้ใหม่พอกพูนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ บอกได้เลยว่าคุณอาจจะไม่สามารถปลดแอกตัวเองออกจากวงจรลูกหนี้ได้ง่ายๆ ทำให้จะยิ่งเกิดปัญหาหนักมากขึ้นเรื่อยๆ หากคุณพยายามที่จะทำการก่อหนี้ก้อนใหม่เพื่อนำมาชำระหนี้เก่าเป็นความคิดที่ผิดอย่างมาก โดยเฉพาะหลายๆ คนที่มักจะแก้ปัญหาด้วยการกดเงินสดจากบัตรเครดิต มาจ่ายหนี้บัตรเครดิตอีกใบหนึ่ง วิธีนี้ย้ำเลยว่าไม่แนะนำ เพราะจะยิ่งเป็นการสร้างหนี้ให้คุณมากกว่า เดิม โดยเพาะดอกเบี้ยมหาโหดที่อาจจะทำให้คุณแย่หนักกว่าเดิม ที่แก้ไขคือ ไม่ควรใช้บัตรเครดิตในการหมุนเงิน หรือกดเงินสดเพื่อแก้ไขปัญหาการชำระหนี้
หันมาประหยัดและลดค่าใช้จ่าย
การลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ภายในบ้าน หรือการประหยัดควรเริ่มตั้งแต่เนิ่นๆ แนะนำว่าควรสตาร์ทจากการจดบันทึกว่าในแต่ละวันคุณใช้จ่ายอะไรไปบ้าง ซึ่งจะทำให้คุณเองเห็นได้ว่า รายจ่ายที่คุณใช้ไปในแต่ละวัน แต่ละเดือน อาจมีบางอย่างที่เกิดขึ้นเป็นค่าใช้จ่ายที่หมดไปกับสิ่งที่ไม่จำเป็น ไม่ว่าจะเป็นค่ากินเลี้ยง ปาร์ตี้กลางคืน ค่าเครื่องสำอาง หรือเสื้อผ้า คอลเลคชั่นใหม่ ข้าวของเครื่องใช้ที่น่ารักแต่ชอบซื้อมาเก็บไว้ ของราคาถูก ที่ชอบซื้อมาเยอะเกินจนใช้ไม่ทันค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเหล่านี้ หากอยู่ในระดับที่พอเหมาะก็ไม่น่าเป็นห่วง และคงไม่สร้างหนี้เท่าไหร่ แต่บางครั้งคุณเองต้องพิจารณาเงินในกระเป๋าด้วยว่า การลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นเหล่านี้ออกไปก็จะช่วยให้คุณมีเงินเหลือเพิ่มและสามารถนำไปจ่ายชำระหนี้ได้มากขึ้น
เร่งในการจ่ายหนี้ให้เร็วขึ้น
( รูปจาก manager.co.th )
การเร่งชำระหนี้ให้เร็วที่สุด อาจเป็นหนี้ก้อนใหญ่สุด ในกรณีที่มีหนี้หลายอย่าง ควรเลือกปิดบัญชีหนี้ตัวที่มีดอกสูงสุด หรือมีจำนวนมากสุด หากสามารปลดหนี้ให้เร็วเท่าที่จะสามารถทำได้ จะช่วยให้คุณหลุดพ้นวงจรจากวงจรลูกหนี้เร็วขึ้น ที่สำคัญไม่ควรค้างชำระในการค่างวดเกิน 3 เดือน ซึ่งเป็นการรักษาประวัติการผ่อนชำระหนี้ที่ดีเพื่อไม่ให้คุณถูกขึ้นบัญชี ลูกหนี้ประวัติแย่ เพราะจะแสดงในฐานข้อมูลเครดิตบูโร ทำให้คราวนี้จะกลายเป็นเรื่องใหญ่กว่าเดิมเลยทีเดียว
การเร่งชำระหนี้ ควรเลือกจ่ายหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงเป็นอันดับต้น หรือกรณีที่มีการคิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก ซึ่งจะทำให้คุณประ หยัดดอกเบี้ยลงได้อีก หรือเลือกชำระหนี้ที่มียอดคงค้างน้อยที่สุดก่อน เพราะทำให้จำนวนเจ้าหนี้ลดลง ซึ่งยังเป็นการสร้าง กำลังใจในการออกจากวงจรลูกหนี้ของคุณอีกด้วย และหากเป็นหนี้บัตรเครดิตควรจะชำระเต็มจำนวนของยอดการใช้จ่ายดีกว่า เพราะหากชำระตามจำนวนเงินขั้นต่ำหรือชำระเพียงบางส่วน จะทำให้ถูกคิดดอกเบี้ยเพิ่ม ซึ่งเมื่อทบต้นไปเรื่อยๆ อาจจะทำให้คุณมีหนี้เพิ่มขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว
ขายสินทรัพย์บางส่วนเพื่อหาเงินมาปลดหนี้
บางครั้งหากพิจารณาสินทรัพย์หลายอย่างของคุณที่มีอยู่ อาจจะพบว่าหลายอย่างเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น หรือมีสิ่งของที่ถูกใช้งานน้อยมาก ซื้อมาแล้วเก็บไว้เฉยๆ ท่ามกลางสถานการณ์ที่เรามีภาระหนี้รุมเร้าแบบนี้ การขายสินทรัพย์เพื่อนำเงินไปชำ ระหนี้บางส่วนให้ภาระลดลงอาจเป็นทางเลือกที่ดี อย่างบางครอบครัวมีรถยนต์ส่วนตัว 2 คัน หากคิดว่าจะสามารถช่วยลดหนี้ได้ และให้มีการใช้งานโดยเหลือเพียงคันเดียว จะต้องนำรถอีกคันไปขายเพื่อให้มีเงินมาจ่ายหนี้ได้ หรือสาวๆบางคนที่นิยมซื้อสะสมเครื่องประดับราคาแพง ที่อาจจะได้สวมใส่เพียงไม่กี่ครั้ง แนะนำให้ตัดใจขายสินทรัพย์เหล่านี้ เพราะเชื่อว่าในอนาคต ยังมีโอกาสที่จะซื้อหามาใหม่ได้เสมอ ยิ่งเสียดายอาจยิ่งเป็นหนี้ไม่มีวันหมด
เปลี่ยนมาใช้เงินสดแทนบัตรเดบิต
หลายคนประสบปัญหาหนี้สินท่วมหัว เอาตัวไม่รอดก็เพราะมีพฤติกรรมชอบใช้บัตรเครดิตแทนเงินสด ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแล้วหันมาใช้เงินสดแทนบัตรเดบิตแทนจะดีกว่า อาจจะเริ่มจากการลดจำนวนบัตรเครดิตที่ใช้ลง โดยให้เหลือเพียง 1 ถึง 2 ใบ ส่วนคนที่จิตใจแน่วแน่เข้มแข็งแนะนำลองหักดิบเลิกใช้ไปเลยทันที วิธีการเปลี่ยนมาใช้เงินสดแทนบัตรเดบิตนี้จะช่วยในการจำกัดการใช้จ่าย เนื่องจากสามารถใช้เงินได้เท่าที่มีอยู่ในกระเป๋าสตางค์ หรือใช้เงินตามจำนวนเงินในบัญชีเท่านั้น
ในการลดภาระหนี้สินวงจรลูกหนี้ สิ่งที่สำคัญคือ การปรับพฤติกรรมของการใช้จ่ายเพื่อความเคยชินของตัวเอง และการรู้จักวางแผนการใช้จ่ายให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น เมื่อคุณมีวินัยและลงมือปฏิบัติอย่างจริงจังก็จะทำให้สามารถลดภาระหนี้สินและเป็นการหลุดพ้นจากวงจรลูกหนี้ได้อย่างแน่นอน
ข้อมูลจาก money.sanook.com
4426 2016-04-30 21:19:50